ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เจาะลึกอันตราย สุขภาพ กระดูกพรุน อันตรายน้ำดำ!

Pic_295675
ใครที่เป็นแฟนคลับเครื่องดื่มน้ำดำอย่าง มีข้อสงสัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความอ้วน เรื่องน้ำตาลและเรื่องกระดูกพรุนกับทุกข้อสงสัยไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูด คุยกับ นพ.แม็กซีม บิวอิก ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต ฝ่ายวิทยาศาสตร์และกฎระเบียบ ผลิตภัณฑ์น้ำดำชื่อดัง..
Q : สาวๆ กลัวเรื่องอ้วน จำเป็นไหมที่จะต้องคำนวณแคลอรี่ก่อนรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในแต่ละครั้ง

A : การ คำนวณแคลอรี่อย่างละเอียดและตลอดเวลาอาจจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยากและ สับสน เพราะท้ายที่สุด เราอาจไม่สามารถรับรู้ข้อมูลพลังงานของอาหารทุกประเภทที่เรารับประทานได้ ทั้งหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงเป็นจานๆ และในแต่ละวัน แต่ละคนก็อาจใช้พลังงานที่ต่างกันไปอยู่ดี  อย่างไรก็ตาม การรับทราบและตระหนักถึงข้อมูลแคลอรี่ของอาหารหรือเครื่องดื่มแต่ละประเภท จะเป็นการย้ำเตือนให้เราตระหนักถึงการรักษาสมดุลพลังงานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเราควรทำควบคู่ไปกับการชั่งน้ำหนักเป็นประจำ เพื่อให้รู้ตัวว่าตัวเองกินมากเกินไปกว่าที่เราใช้พลังงานหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น น้ำหนักตัวเราก็จะเพิ่มขึ้น และหมายความว่าเราต้องระมัดระวังเรื่องการบริโภคให้มากขึ้น  ต้องมีกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น เช่น การไปออกกำลังกาย เพื่อทำให้น้ำหนักของเรากลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกครั้ง
Q : จากผลการศึกษาและแผนภูมิ แสดงสัดส่วนพลังงานจากการบริโภคอาหารแต่ละประเภทของประชากรไทย ซึ่งสำรวจในปี 2006 ดร.แม็กซีม คิดว่ามีความสมดุลแล้วหรือไม่อย่างไร และน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางทิศใดในปัจจุบัน


A : จากการที่เคยทำงานและพำนักอยู่ในประเทศไทยมาก่อน เขาได้มองเห็นพัฒนาการที่ดีมาก โดยเฉพาะปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งปัจจุบันมีน้อยและจะจำกัดวงอยู่เพียงบางพื้นที่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในภาพรวม อาหารในประเทศไทยค่อนข้างจะพอเพียง และหลากหลาย มีทั้งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ที่เพียงพอต่อการบริโภค แต่สิ่งที่ท้าทายก็คือคนทั่วโลกรวมถึงคนไทยด้วย กำลังเปลี่ยนมาใช้วิถีชีวิตคนเมืองมากขึ้น มีอาหารประเภทใหม่ๆ เข้ามา และมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงทุกที เช่น จากเคยเดินขึ้นบันได ก็มีลิฟต์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เรามีกิจกรรมทางกายน้อยลง

การสำรวจ ประเภทนี้เป็นการสำรวจระดับประเทศที่ต้องเก็บข้อมูลจำนวนมาก หากมีการสำรวจใหม่ ก็จะช่วยให้เราเข้าใจการบริโภคของคนไทยในปัจจุบันได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามสัดส่วนการบริโภคของแต่ละพื้นที่มักจะไม่เปลี่ยนแปลงมากในระยะ สั้น อาทิ คนไทยก็ยังคงได้รับพลังงานจากข้าวเป็นหลัก เพราะยังคงเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของประเทศมาโดยตลอด

Q : อะไรคือภาวะการขาดสารอาหารซ่อนเร้น


A :
การ ขาดวิตามินเอ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบการมองเห็น อาจทำให้ตาบอดได้ ในขณะที่ทำงานด้านนี้ จึงมีการส่งเสริมให้ผลิตอาหารและบริโภคอาหารที่มีวิตามินเอมากๆ คือ ผักและผลไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งหากมีการผลิตและการบริโภคผักและผลไม้ประเภทเหล่านี้อย่างพอเพียงและ เหมาะสม เราก็ไม่จำเป็นจะต้องบริโภควิตามินชนิดแคปซูลเสริม

Q : หลักการคำนวณแคลอรี่ในแต่ละวัน มีเกณฑ์กำหนดเท่าไรสำหรับชาวเอเชีย
A : คนเรามีความต้องการทางโภชนาการหรือวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ในแต่ละช่วงวัย เพราะฉะนั้นจึงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ถ้าเปรียบเทียบกับชาวยุโรป จะมีโครงสร้างร่างกายใหญ่กว่าคนเอเชีย เพราะฉะนั้นความต้องการจึงแตกต่างกัน ไม่ควรกังวลในเรื่องนี้มากนัก ประเด็นสำคัญก็คือ การบริโภคให้สมดุล คือพยายามทานอาหารและเครื่องดื่มให้พอเพียงต่อความต้องการใช้พลังงานในแต่ละ วัน สำหรับผู้ที่กลัวอ้วน แนะนำว่าให้ชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน เพราะจะได้รู้ว่าเมื่อไหร่ที่น้ำหนักขึ้น เพราะทานมากเกินไป ก็จะได้ลดปริมาณลงหรือปรับเปลี่ยนประเภทอาหาร หรือไม่ก็ออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อเผาผลาญพลังงานที่ได้รับเข้าไปมากเกินไป ซึ่งเรียกว่าสมดุลพลังงาน ก็จะสามารถควบคุมน้ำหนักได้

Q : การดื่มน้ำอัดลมทำให้ติดหรือไม่

A : หากพิจารณาจากมุมมองทางการแพทย์แล้ว การบริโภคน้ำอัดลมไม่ได้ส่งผลให้เกิด “การติด” เหมือนกับการเสพติดสารอื่นๆ อย่างไรก็ตาม หลายครั้งคนทั่วไปมักจะใช้คำว่า “ติด” ในการพูดถึงสิ่งที่ชื่นชอบมากๆ ทำให้คำว่าติดบางครั้งก็ถูกนำมาใช้กับการบริโภคน้ำอัดลม สำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำอัดลมมากๆ ทั้งที่ความจริงน้ำอัดลมไม่ได้ก่อให้เกิดอาการ “ติด” ตามความหมายทางการแพทย์แต่อย่างใด

Q : การดื่มน้ำอัดลมขณะท้องว่าง เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่

A : สำหรับคนทั่วไปที่มีสุขภาพปกติแล้ว ไม่เฉพาะตอนท้องว่าง ดื่มตอนไหนก็ปลอดภัย ส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์โค้ก คือ น้ำ ซึ่งให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย กรดในกระเพาะอาหารของคนเรามีความเป็นกรดมากกว่าในน้ำอัดลมหรืออาหารทั่วไป หลายเท่า
Q : มีความเชื่อที่ว่า หากต้องการมีร่างกายที่แข็งแรง เราไม่ควรบริโภคข้าวขาหมู หรือข้าวมันไก่ เชื่อได้หรือไม่
A : มี คำพูดมาแต่โบราณว่า ไม่มีอาหารที่ดีหรืออาหารที่เลว มีแต่แบบแผนการบริโภคที่ดีหรือที่เลว แบบแผนการบริโภคที่ถูกต้องคือการบริโภคอย่างสมดุล นั่นคือการที่คุณบริโภคอะไรในมื้อนี้ หรือมื้อหน้า ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตัดสินว่า สุขภาพคุณจะดีหรือไม่ เราจำเป็นจะต้องดูภาพรวมว่าโดยทั่วไปแล้ว คุณมีพฤติกรรมในการบริโภคโดยรวมอย่างไร คุณบริโภคอะไรมากน้อยเท่าไหร่ และมีกิจกรรมทางกายหรือการใช้พลังงานมากน้อยเท่าไหร่ ต้องพิจารณากันในระยะยาว มิใช่แค่มื้อใดมือหนึ่ง
Q : เด็กไม่ควรดื่มน้ำอัดลมจริงหรือไม่ เนื่องจากมีมาตรการห้ามขายน้ำอัดลมในบางโรงเรียน

A :
ไม่ จริง เครื่องดื่มน้ำอัดลมปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่ที่บางโรงเรียนห้ามขายอาจเป็นเพราะต้องการส่งเสริมเครื่องดื่มประเภท อื่นๆ เช่น น้ำ นม หรือน้ำผลไม้ ซึ่งต้องไม่ลืมว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ก็ให้พลังงานกับร่างกายเหมือนกัน

Q : การดื่มน้ำอัดลม ทำให้อ้วนหรือไม่


A :
น้ำอัดลมก็เหมือนกับเครื่องดื่มและอาหารอื่นๆ ที่ให้พลังงาน เมื่อมีการบริโภคที่ไม่สมดุลและเกิดพลังงานส่วนเกิน พลังงานส่วนเกินนี้ ไม่ว่าจะมาจากอาหารหรือเครื่องดื่มประเภทใด ก็ทำให้อ้วนได้ เราจึงไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรค อ้วน
Q : น้ำอัดลมเป็นสาเหตุให้เกิดโรคกระดูกพรุนหรือไม่

A :
ไม่ การดื่มน้ำอัดลมไม่ทำให้กระดูกอ่อนแอ ขั้นตอนสำคัญที่คุณสามารถรักษากระดูกให้แข็งแรง มีสุขภาพดี ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง ประกอบการออกกำลังกายประเภทที่ต้องมีการแบกหรือยกน้ำหนัก

และนี่คือคำตอบจากปากผู้เชี่ยวชาญน้ำดำชื่อดัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น